รีวิว The Covenant ผมขอเริ่มรีวิวนี้โดยสังเกตว่าสัปดาห์ของวันที่ 20 เมษายน 2023 เป็นวันฉายภาพยนตร์ของกาย ริทชี่ 2 เรื่อง ได้แก่ ‘Operation Fortune’ และ ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ หลานชาย ความแปลกประหลาด ความแปลกประหลาด และซีเควนซ์แอ็คชั่นบ้าๆ ของ ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะตัดสินจากเครดิต ทีมเขียนบทก็เหมือนกัน (L, Jake Gyllenhaal) เป็นผู้ควบคุม หลังจากนักแปลคนก่อนเสียชีวิตใน IED นักแปลคนใหม่ อาเหม็ด (ดาร์ ซาลิม) ได้รับการว่าจ้างให้จู่โจมและทำลายเว็บไซต์ IED ของตาลีบัน
ภารกิจดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งกลุ่มตอลิบานส่งกองทัพมาโจมตีพวกเขาและใส่จอห์น แมคคินลีย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส และด้วยมนุษยธรรม อาเหม็ดจึงสร้างเปลหามและเข็นร่างของจอห์นผ่านหุบเขาหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อนำทหารอเมริกันกลับบ้าน แต่อีกหนึ่งเดือนต่อมา จอห์นจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้อาเหม็ดกลับไปอัฟกานิสถาน แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตอีกครั้ง
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ ใช้คนเขียนคนเดียวกับ ‘Operation Fortune’ โดย Evan Atkinson และ Marn Davies เป็นคนเขียนร่วมกับ Guy ริทชี่เอง. แต่ความชัดเจนของหนังเรื่องนี้คือแม้ไม่ใช่หนังจริงแต่นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจ เช่น ผู้แปลในสงครามต่างๆ แดนผู้มักถูกผลักดันให้เป็นนักแสดงสมทบในหนังสงคราม เพื่อเป็นคนสำคัญและเป็นภารกิจที่ตัวเอกอย่างจ่าจอห์น คินลีย์ จะต้องไปทำภารกิจสุดบ้าบิ่นในตอนจบของเรื่อง
อย่างไรก็ตาม หากคุณหวังว่าจะได้ดูละครสงครามอเมริกันที่ได้รับคำวิจารณ์ชื่นชมหรือคำคมเกี่ยวกับความรักชาติสไตล์ฮอลลีวูด อย่าคาดหวังกับหนังที่ชื่อว่า ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ 2 ชม. หนังบู๊แอคชั่น หนังระทึกขวัญที่ผสมผสานมุกตลกแหวกแนวเล็กน้อยของริทชี่
เมื่อGuy Ritchie เลิกขำ รีวิว The Covenant
รีวิว The Covenant ที่สำคัญกว่านั้น สคริปต์ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อวิจารณ์การเมืองโลก ซึ่งแตกต่างจากงานก่อนหน้านี้ที่มักจะสำรวจวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นของชาวไอริช หรือสร้างภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากภาพยนตร์วรรณกรรมให้คลั่งไคล้ แต่กับ ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ มันมีข้อความทางการเมืองที่ตรงไปตรงมา โดยเฉพาะในตอนท้ายซึ่งพูดถึงชะตากรรมอันน่าเศร้าของผู้แปล ภาษาหลังจากสหรัฐฯ ถอนตัวจากอัฟกานิสถาน
และเมื่อภาพยนตร์ถูกห่อหุ้มด้วยภาพยนตร์สงคราม (War Film) ละครก็เปิดเผยผ่านการกระทำของตัวละครที่เรียบง่าย ตั้งแต่ความกลัวในสายตาของจ่าจอห์น คินสลีย์ที่เจ. เอ. จิลเลนฮาลแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม หรือความกล้าหาญและความเมตตาของอาเหม็ดก็แสดงให้เห็นในเรื่องนี้ วิธีที่เป็นธรรมชาติและน่าชื่นชมของ Dar Salim ซึ่งช่วยเสริมความดราม่าของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ผู้กำกับเอ็ด ไวลด์ใช้ Worm Eye View เพื่อแทนที่ภาพจ่าจอห์น คินสลีย์นอนอยู่บนเปลหาม ซึ่งใช้ได้ผลในฉากนี้ แก่นของหนัง หรือสิ่งหนึ่งที่ดีมากในฐานะคนที่ต้องดูหนังจากจอแถวที่ 3 อย่างผมในวงจรของสื่อ ก็คือ การออกแบบภาพของมันให้สอดรับกับการดูในระยะที่ใกล้หน้าจอมากๆ อารมณ์ในการรับชมค่อนข้างดี
ถึงกระนั้น หากต้องบอกจุดบกพร่องหรือรอยแผลเป็นของหนัง การตัดสินใจของ John Kinsley ที่ใช้ฝันร้ายและหนี้ชีวิตเป็นตัวขับเคลื่อนการตัดสินใจก็ยังปรากฏชัด แม้จะได้ฉากเปลที่ทรหดแต่อาเหม็ดก็มาช่วย หรือแม้แต่เรื่องราวในองก์ที่ 2-3 ก็ดูจะสั้นผิดปกติ แถมอุปสรรคต่างๆ ก็ไม่เข้มข้นเท่าเรื่องราวในองก์แรกของหนัง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ชุ่มเหงื่อที่มือของคุณแทะไปทั้งเรื่องแล้ว ‘Guy Ritchie’s The Covenant’ ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การชมในโรงภาพยนตร์อยู่ดี
ดุเดือด เลือดสาด เอาใจสายบู๊แบบสุดลิ่ม
รีวิว The Covenant เป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชันแฟนตาซีที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความลึกลับ ภาพยนตร์นี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักรบมนุษย์ผู้มีพลังเวทมนตร์ที่ถูกสืบทอดมาตรฐานตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่อันตรายและการทะเลาะวิวาทที่อาจทำให้พลังแห่งพวกเขาหายไป
หนึ่งในจุดเด่นที่น่าสนใจของ The Covenant คือการสร้างสรรค์โลกที่มีความเชื่อมโยงกับเวทมนตร์และพลังลึกลับ ภาพยนตร์มองเห็นถึงโลกที่อยู่ระหว่างโลกแห่งมนุษย์และโลกเวทมนตร์ โดยมีองค์ประกอบเวทมนตร์และการใช้พลังมนุษย์ในการต่อสู้กับกองทัพศัตรูที่เกิดขึ้นเพื่อกำจัดพลังของพวกเขา สถานที่ในภาพยนตร์มีบรรยากาศที่มืดมนัสและรวดเร็ว ช่วยสร้างความตื่นเต้นและความลึกลับในเรื่องราว
นอกจากนี้ The Covenant ยังมีการแสดงที่น่าสนใจและน่าประทับใจ นักแสดงทำหน้าที่ได้ดีในการแสดงบทบาทของนักรบมนุษย์ที่มีพลังลึกลับ พวกเขาสร้างความเชื่อมั่นและความพิเศษให้กับตัวละคร และสร้างบรรยากาศของการต่อสู้และการผจญภัยในโลกที่ตื่นเต้น
เนื้อเรื่องใน The Covenant มีความสมดุลและน่าสนใจ มันมอบประสบการณ์ที่หลากหลายและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผู้ชมจะได้สัมผัสการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความอันตรายและความลึกลับของเวทมนตร์ การต่อสู้และการใช้พลังเวทมนตร์เป็นจุดเด่นที่สำคัญของภาพยนตร์นี้ มันสร้างความตื่นเต้นและความเสียหายในโลกที่มีพลังแห่งเวทมนตร์และความลึกลับ
อย่างไรก็ตาม The Covenant ก็มีบางปัญหาที่อาจเป็นไปได้ เช่น รายละเอียดของโลกและพลังลึกลับอาจไม่ได้ถูกสำรวจอย่างละเอียดและไม่ได้ถูกอธิบายอย่างเต็มที่ และบางครั้งอาจมีความสับสนเกี่ยวกับพลังลึกลับที่ไม่เพียงพอในการสร้างความเชื่อถือในเรื่องราว
โดยรวมแล้ว The Covenant เป็นภาพยนตร์แอ็คชันแฟนตาซีที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้น มันมีภาพสวยงามและบรรยากาศที่ทำให้คุณลืมตัวเองในโลกของเวทมนตร์และการต่อสู้ ถ้าคุณชื่นชอบการผจญภัยและเรื่องราวที่มีความลึกลับ คุณควรลองดู The Covenant และพบกับการสืบทอดตำนานที่ไม่เหมือนใครในโลกนี้